ทำไมสีงานพิมพ์ไม่ตรงกับไฟล์ต้นฉบับ | แก้ไขปัญหาสีเพี้ยนกับ BPK Printing


ทำไมสีงานพิมพ์ไม่ตรงกับไฟล์ต้นฉบับ?
 

Project Image


ทำไมสีงานพิมพ์ไม่ตรงกับไฟล์ต้นฉบับ?
หลายคนเคยประสบปัญหางานพิมพ์ที่สีไม่ตรงกับไฟล์ต้นฉบับในคอมพิวเตอร์ ซึ่งสาเหตุของปัญหานี้มีหลายประการ ทั้งจากเครื่องพิมพ์ คุณภาพช่างพิมพ์ หรือแม้กระทั่งไฟล์งานของลูกค้าเอง วันนี้ โรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง มีคำแนะนำที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเตรียมไฟล์งานให้ถูกต้อง ลดปัญหาสีเพี้ยน และทำให้งานพิมพ์ออกมาตรงใจมากที่สุด

 1. ความแตกต่างของระบบสี RGB และ CMYK 
ปัญหาสำคัญ ที่ทำให้สีเพี้ยนคือ ลูกค้าเตรียมไฟล์ในระบบสี RGB แทนที่จะเป็น CMYK เนื่องจากระบบสีทั้งสองนี้แตกต่างกันโดยพื้นฐาน และไม่สามารถแทนกันได้

ระบบสี RGB
RGB (Red, Green, Blue) เป็นระบบสีที่เกิดจากการเปล่งแสง เหมาะสำหรับจอ LCD/LED หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สีในระบบนี้สดใสและสว่าง เนื่องจากเกิดจากการผสมแสง ตัวอย่างเช่น

- สีขาว: เกิดจากการผสมแสงสีแดง เขียว และน้ำเงินในระดับสูงสุด (255:255:255)
- สีดำ: เกิดจากการปิดแสงทุกสี (0:0:0)
ระบบ RGB มีความยืดหยุ่นและให้สีได้มากถึง 16.7 ล้านเฉดสี แต่ไม่สามารถนำมาใช้กับงานพิมพ์ได้

ระบบสี CMYK
CMYK (Cyan, Magenta, Yellow, Black) ใช้สำหรับงานพิมพ์โดยเฉพาะ เป็นการผสมหมึกเพื่อดูดซับแสงและสะท้อนสีออกมา เช่น

- สีฟ้า: หมึก Cyan ดูดซับแสงทุกสี ยกเว้นแสงสีฟ้าที่สะท้อนกลับมาให้เราเห็น
- สีดำ: เกิดจากการผสมแม่สี Cyan, Magenta, และ Yellow ในระดับสูงสุด
เนื่องจากระบบ CMYK เป็นการผสมหมึก สีที่ได้จึงไม่สดใสเท่าระบบ RGB และยิ่งอัดหมึกมากขึ้น สีจะมืดลงเรื่อย ๆ ช่างพิมพ์สามารถทำให้สีมืดลงได้ แต่ไม่สามารถทำให้สีสว่างขึ้นได้

คำแนะนำ:

- ลูกค้าควรแปลงไฟล์เป็น CMYK ก่อนส่งโรงพิมพ์
- เพิ่มความสว่างของภาพในระบบ CMYK ประมาณ 10% เพื่อป้องกันงานพิมพ์ที่มืดเกินไป

ภาพจากสแกนเนอร์หรือกล้องดิจิตอล
อีกปัญหาที่พบได้บ่อยคือ การนำภาพจากสแกนเนอร์หรือกล้องดิจิตอลมาใช้งานโดยตรง ภาพเหล่านี้มักถูกบันทึกในระบบ RGB โดยอัตโนมัติ หากไม่แปลงเป็น CMYK ก่อนใช้งาน จะทำให้สีเพี้ยนในกระบวนการพิมพ์

คำแนะนำ:

- แปลงภาพในระบบสี CMYK ด้วยตัวเองก่อนส่งไฟล์ ลูกค้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีและสามารถแก้ไขได้ทันที
- แม้โรงพิมพ์จะแปลงไฟล์ให้ได้ แต่ลูกค้าจะไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ของสีที่เปลี่ยนไป

สรุปข้อแนะนำในการเตรียมไฟล์งานพิมพ์
เพื่อให้งานพิมพ์ออกมาตรงกับความต้องการ ลูกค้าควรตรวจสอบดังหัวข้อข้อด้านล่าง

- ตรวจสอบระบบสี: ใช้ CMYK แทน RGB ในไฟล์งานเสมอ
- เพิ่มความสว่าง: เผื่อความสว่างของภาพไว้ 10% สำหรับการพิมพ์
- แปลงไฟล์รูปภาพ: หากใช้ภาพจากสแกนเนอร์หรือกล้องดิจิตอล ควรแปลงไฟล์เป็น CMYK ก่อน
- ปรึกษาโรงพิมพ์: หากไม่แน่ใจในกระบวนการหรือผลลัพธ์ของสี ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมงาน
ด้วยการเตรียมไฟล์งานอย่างถูกต้องและการสื่อสารที่ชัดเจน คุณจะสามารถลดปัญหาสีเพี้ยนและได้งานพิมพ์ที่ตรงกับความคาดหวังที่สุด หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมงานโรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง ยินดีให้คำแนะนำเสมอครับ!
 
2. การออกปรู๊ฟดิจิตอล: ขั้นตอนสำคัญก่อนการพิมพ์
 
ในอดีต การพิมพ์งานออฟเซ็ตจำเป็นต้องใช้การปรู๊ฟสีผ่านระบบที่เรียกว่า ปรู๊ฟเพลท ซึ่งเป็นการสร้างแม่พิมพ์จริงสำหรับปรู๊ฟสีให้ลูกค้าตรวจสอบ ความยุ่งยากของวิธีนี้คือ หากลูกค้าไม่พอใจในสีที่ออกมา หรือพบข้อผิดพลาด เช่น ตัวหนังสือสะกดผิด หรือรูปภาพผิดแบบ แม่พิมพ์ชุดนั้นจะเสียไปทันทีและต้องผลิตใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะหากเป็นงานพิมพ์หนังสือที่มีหลายหน้า การปรู๊ฟเพลทเพื่อทดสอบสีทุกหน้าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
 
ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในปัจจุบัน โรงพิมพ์จึงหันมาใช้ ปรู๊ฟดิจิตอล ซึ่งเป็นการจำลองสีของงานพิมพ์ในรูปแบบดิจิตอลก่อนที่จะสร้างแม่พิมพ์จริง การออกปรู๊ฟดิจิตอลช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกในการแก้ไขงานอย่างมาก แม้จะมีความคลาดเคลื่อนเรื่องสีอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งาน และช่วยประหยัดต้นทุนอย่างมหาศาล

ข้อดีของการออกปรู๊ฟดิจิตอล
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: การปรู๊ฟดิจิตอลไม่ต้องสร้างแม่พิมพ์จริง ทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้มาก
- สะดวกและรวดเร็ว: สามารถแก้ไขไฟล์งานได้ง่ายและรวดเร็ว หากลูกค้าต้องการปรับเปลี่ยนสีหรือเนื้อหา
- ลดการสูญเสีย: หากพบข้อผิดพลาดในงาน สามารถแก้ไขไฟล์งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียแม่พิมพ์
 
ข้อควรทราบเกี่ยวกับปรู๊ฟดิจิตอล
แม้ว่าปรู๊ฟดิจิตอลจะสะดวกและประหยัด แต่ยังมีข้อจำกัดที่ลูกค้าควรเข้าใจดังนี้
 
- สีปรู๊ฟกับ CMYK แตกต่างกัน: สีที่แสดงในปรู๊ฟดิจิตอลอาจไม่ตรงกับสีในระบบ CMYK 100%
- กระดาษแตกต่างกัน: กระดาษที่ใช้ปรู๊ฟและกระดาษจริงที่ใช้พิมพ์อาจมีความแตกต่าง ส่งผลต่อสีที่เห็น
- ความแม่นยำของสี: ปรู๊ฟดิจิตอลสามารถเทียบเคียงสีได้ประมาณ 80% บางสีใกล้เคียงมาก บางสีอาจเพี้ยนเล็กน้อย
- การปรู๊ฟเพลทยังคงทำได้: หากลูกค้าต้องการความแม่นยำสูงในบางจุด สามารถเลือกทำปรู๊ฟเพลทได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- ใช้ไกด์สี Pantone: ทางโรงพิมพ์มีไกด์สีมาตรฐาน PANTONE สำหรับช่วยลูกค้าเปรียบเทียบสีที่ต้องการ
 
คำแนะนำสำหรับลูกค้าที่ต้องการงานพิมพ์สีแม่นยำ

 
- เลือกใช้ Profile สีที่ถูกต้อง: เริ่มต้นจากการออกแบบไฟล์งานในระบบ CMYK และปรึกษาโรงพิมพ์เพื่อเทียบสี
- แจ้งจุดที่ต้องการเน้น: หากมีจุดที่ซีเรียสเรื่องสี ควรแจ้งโรงพิมพ์ล่วงหน้า
- ปรึกษาและเทียบสีร่วมกับโรงพิมพ์: การสื่อสารระหว่างลูกค้าและโรงพิมพ์ช่วยลดความคลาดเคลื่อนเรื่องสี
- เช็คสีด้วยไกด์ Pantone: หากต้องการสีเฉพาะ ทางโรงพิมพ์มีไกด์สี Pantone นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ลูกค้าสามารถตรวจสอบและเทียบสีได้
 
สรุป
การออกปรู๊ฟดิจิตอลเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการผลิตงานพิมพ์ แม้จะมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยในเรื่องสี แต่สามารถช่วยลูกค้าประเมินภาพรวมของงานได้ดี หากลูกค้ามีข้อกังวลเรื่องสี ทางโรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนเพื่อให้งานพิมพ์ของคุณออกมาดีที่สุด
 
3.ชนิดของกระดาษที่ใช้พิมพ์: ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสีและคุณภาพงานพิมพ์
กระดาษที่เลือกใช้พิมพ์มีผลต่อสีและคุณภาพของงานพิมพ์อย่างมาก แม้ว่าจะใช้หมึกชุดเดียวกันและแม่พิมพ์เดียวกัน แต่การเลือกชนิดกระดาษที่ต่างกันสามารถให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ทางโรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง จึงอยากให้ข้อมูลเกี่ยวกับชนิดกระดาษยอดนิยมเพื่อช่วยลูกค้าเลือกได้อย่างเหมาะสมที่สุด

1.) กระดาษอาร์ตมัน
กระดาษอาร์ตมันเป็นกระดาษที่ผ่านการขัดเคลือบผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน เงาวาว และสะท้อนแสงได้ดี

คุณสมบัติ:
- ดูดซึมหมึกน้อย ทำให้หมึกลอยอยู่บนผิวกระดาษ
- สีคมชัดสดใส ภาพมีมิติ
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงามและสีสันโดดเด่น เช่น โบรชัวร์ แคตตาล็อก หรือปกหนังสือ
ข้อเสีย:
- เงาวาวมากเกินไป อาจทำให้อ่านได้นาน ๆ แล้วสายตาเมื่อยล้า

2.) กระดาษปอนด์ / กระดาษถนอมสายตา
กระดาษปอนด์ทำจากเยื่อกระดาษธรรมชาติ ไม่ผ่านการขัดผิว

คุณสมบัติของกระดาษปอนด์:
- ผิวสาก ขรุขระ ไม่สะท้อนแสง
- ดูดซึมหมึกได้ดี หมึกแทรกซึมเข้าไปในเนื้อกระดาษ ทำให้ภาพดูดิบและเป็นธรรมชาติ
- เหมาะสำหรับงานเขียน เช่น สมุดโน้ต หรือเอกสารทั่วไป
- งานที่พิมพ์บนกระดาษปอนด์อาจดูมืดกว่าปกติ เนื่องจากหมึกซึมเข้าไปในกระดาษ
คุณสมบัติของกระดาษถนอมสายตา:
- เหมือนกระดาษปอนด์ แต่ย้อมสีเหลืองอ่อนเพื่อลดแสงสะท้อน
- สีที่พิมพ์ออกมาจะติดเหลืองและมีความเพี้ยนเล็กน้อย
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องการเน้นความเป็นธรรมชาติหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3.) กระดาษอาร์ตด้าน
กระดาษอาร์ตด้านอยู่กึ่งกลางระหว่างอาร์ตมันและกระดาษปอนด์

คุณสมบัติ:
- ผิวเรียบเนียนแต่ไม่เงาวาวมากเท่าอาร์ตมัน
- ดูดซึมหมึกปานกลาง ให้ภาพมีมิติมากกว่ากระดาษปอนด์
- เหมาะกับงานที่ต้องการทั้งความสวยงามและความอ่านง่าย เช่น หนังสือหรือโปสเตอร์
ข้อเสีย:
สีอาจไม่สดใสเท่าอาร์ตมัน

4.) กระดาษอาร์ตการ์ด
คุณสมบัติ:
- มีความหนาและแข็งแรง ผิวเรียบ
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง เช่น การ์ดอวยพร ปกหนังสือ หรือโปสการ์ด
- รองรับการเคลือบเงาหรือด้านได้ดี

5.) กระดาษการ์ดขาว
คุณสมบัติ:
- หนาแต่ผิวไม่เรียบเนียนเท่ากระดาษอาร์ต
- ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ นิยมใช้ในงานบรรจุภัณฑ์หรือการ์ดเชิญ

ผลกระทบต่อสีของยี่ห้อกระดาษที่ใช้พิมพ์งาน
กระดาษแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น สีพื้นฐานของกระดาษ บางยี่ห้ออาจมีสีขาวอมฟ้า ในขณะที่บางยี่ห้อมีสีขาวอมเหลือง ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิตและการปรับแต่งของผู้ผลิต

- กระดาษขาวอมฟ้า: ให้ภาพสีสดใส คล้ายอุณหภูมิแสง 6000K
- กระดาษขาวอมเหลือง: ให้ภาพดูอบอุ่น คล้ายอุณหภูมิแสง 5000K
ลูกค้าที่มีข้อกำหนดเฉพาะเรื่องสี สามารถแจ้งกับโรงพิมพ์ล่วงหน้า เพื่อให้เลือกกระดาษที่เหมาะสมที่สุด

ข้อควรคำนึงในการเลือกกระดาษ
- เลือกชนิดกระดาษให้เหมาะกับลักษณะของงาน
- คำนึงถึงคุณสมบัติการดูดซึมหมึกและการสะท้อนแสงของกระดาษ
- หากเปลี่ยนชนิดกระดาษในระหว่างขั้นตอน ควรทราบว่าผลลัพธ์ของสีอาจเปลี่ยนไป

 


สรุป
กระดาษแต่ละชนิดส่งผลต่อสีและคุณภาพงานพิมพ์ในแบบที่แตกต่างกัน ทางโรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเลือกชนิดกระดาษที่เหมาะสมกับงานของคุณ เพื่อให้งานพิมพ์ออกมาตรงใจที่สุด หากมีข้อสงสัยหรือต้องการดูตัวอย่างกระดาษเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้เสมอครับ!


5. การเคลือบงาน: เพิ่มมิติและปกป้องผลงานพิมพ์ การเคลือบงานพิมพ์เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม ความทนทาน และการปกป้องผลงานพิมพ์ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยการเคลือบยังส่งผลต่อสีและความสว่างของภาพที่พิมพ์อีกด้วย ซึ่งในบทความนี้จะอธิบายชนิดการเคลือบงานและผลที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจง่าย ดังนี้:

1.) การเคลือบแบบน้ำยา
การเคลือบแบบน้ำยาคือการเคลือบพื้นผิวงานพิมพ์ด้วยสารเคลือบเหลว เช่น วานิช (Varnish), วอเตอร์เบส (Water-based), และยูวี (UV Coating)

คุณสมบัติ:
- เพิ่มความสว่างและความสดใสของภาพ
- สีเหลืองในภาพจะดูเด่นขึ้นเล็กน้อย
- ผิวงานมีความมันเงา ดูเรียบเนียนขึ้น
เหมาะสำหรับงาน:
-โบรชัวร์ ใบปลิว และนามบัตรที่ต้องการเพิ่มความสวยงามแบบเรียบง่าย

2.) การเคลือบด้วยฟิล์ม (PVC และ OPP)
การเคลือบด้วยฟิล์มเป็นการปิดผิวหน้าด้วยแผ่นฟิล์มบางที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดอายุงานพิมพ์

คุณสมบัติ:
- ฟิล์ม PVC เงา: เพิ่มความสดใสให้กับสี แต่มืดลงเล็กน้อยเพราะฟิล์มมีการดูดซับแสงบางส่วน
- ฟิล์ม PVC ด้าน: ให้ความรู้สึกหรูหรา สีดูเข้มและมืดลงเล็กน้อย แต่ได้ความเรียบเนียนที่ดูนุ่มนวล
- ฟิล์ม OPP: คล้ายกับ PVC แต่มีน้ำหนักเบากว่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

เหมาะสำหรับงาน:
- งานบรรจุภัณฑ์ ปกหนังสือ โปสเตอร์ และนามบัตรพรีเมียม

ผลกระทบต่อสีและความสว่างของภาพเมื่อเคลือบน้ำยาประเภทต่างๆ 
1.) การเคลือบแบบน้ำยา:
- เพิ่มความสดใสของสี
- ทำให้ภาพดูสว่างขึ้นเล็กน้อย

2.) การเคลือบด้วยฟิล์ม:
- สีเข้มขึ้นและภาพมืดลงเล็กน้อย เพราะตัวฟิล์มมีความหนา
- ฟิล์มด้านทำให้ภาพดูเนียนและลดความสะท้อนแสง

ข้อควรคำนึง
- การเลือกชนิดการเคลือบควรสอดคล้องกับลักษณะของงาน เช่น งานที่ต้องการความสดใสอาจเลือกเคลือบน้ำยา ในขณะที่งานที่ต้องการความทนทานหรือดูพรีเมียมควรเลือกเคลือบฟิล์ม
- หากต้องการความแม่นยำในสี ควรปรึกษาโรงพิมพ์ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าสีที่ได้จะตรงตามความต้องการ
 
การเคลือบงานไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยปกป้องผลงานพิมพ์จากรอยขีดข่วนและการเสื่อมสภาพ ทำให้งานพิมพ์ดูโดดเด่นและใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ทางโรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำการเคลือบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานของคุณ!


6. การพิมพ์งานด้วยสี Pantone และความแตกต่างจากงานพิมพ์ 4 สี CMYK
ในการพิมพ์งาน ลูกค้าหลายท่านอาจเคยนำตัวอย่างชิ้นงานมาให้ทางโรงพิมพ์และระบุว่า “ต้องการสีแบบนี้” แต่ในบางกรณี ตัวอย่างงานที่ลูกค้าเห็นนั้นเป็นงานพิมพ์มากกว่า 4 สี (CMYK) โดยใช้ สีพิเศษเพิ่มเติม (Pantone) ซึ่งส่งผลให้สีในงานที่เห็นมีความสดใส เงางาม หรือมีความเงาแบบ Metallic ที่ไม่สามารถทำได้ด้วยระบบ CMYK เพียงอย่างเดียว

งานพิมพ์ 4 สี (CMYK) vs งานพิมพ์ 5 สีขึ้นไป
- CMYK: เป็นระบบสีพื้นฐานที่ใช้แม่สี 4 สี ได้แก่ Cyan (ฟ้า), Magenta (แดงอมม่วง), Yellow (เหลือง), และ Black (ดำ) เพื่อสร้างสีต่าง ๆ บนกระดาษ แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของความสดใสและความเฉพาะตัวของสี
- 5 สีขึ้นไป (CMYK + Pantone): จะเพิ่ม สีพิเศษ (Spot Color) เช่น สีสะท้อนแสง สีเมทัลลิก หรือสี Pantone เพื่อเพิ่มความสดใส โดดเด่น และความเฉพาะตัวในงาน เช่น สีทอง สีเงิน หรือสีแดงสดพิเศษ

ตัวอย่างงานที่ใช้สี Pantone
- สีที่ดูสดใสเป็นพิเศษ เช่น สีแดงสด (Pantone Red 032C) หรือสีสะท้อนแสง (Neon Colors)
- สีเมทัลลิก เช่น สีเงิน สีทอง ซึ่งให้ความเงางามแบบ Metallic
- สีที่สะท้อนแสงเฉพาะบางจุดในงาน หรือสีที่เข้มจัดจ้านในบางตำแหน่ง

หากลูกค้าต้องการงานพิมพ์แบบ 4 สี (CMYK) แต่ส่งตัวอย่างที่มีการใช้สีพิเศษ (Pantone) มาให้เทียบ สีที่ได้จะไม่สามารถเหมือนต้นฉบับได้ 100% เนื่องจากข้อจำกัดของ CMYK ในการสร้างสีที่สดใสหรือเฉพาะตัวเท่ากับ Pantone

ระบบสี Pantone คืออะไร?
Pantone เป็นระบบสีเฉพาะที่มีแม่สีมากถึง 18 สี และถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการสร้างสีที่มีความเที่ยงตรงมากที่สุด ไม่สามารถทดแทนด้วย CMYK ได้


คุณสมบัติเด่น:
- มีความแม่นยำของสีสูง
- ใช้ในการพิมพ์งานที่ต้องการสีเฉพาะ เช่น โลโก้แบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ต้องการให้สีตรงตาม Corporate Identity
- เพิ่มสีพิเศษที่ไม่สามารถสร้างได้ในระบบ CMYK เช่น สีทอง สีเงิน หรือสีสะท้อนแสง

วิธีการจัดการกับงานที่ใช้ Pantone
- งานที่ต้องการสีเฉพาะ:
หากลูกค้าต้องการสีที่ตรงเป๊ะ เช่น สีโลโก้ที่กำหนดมาใน Pantone สามารถพิมพ์ด้วยระบบสี Pantone ได้โดยตรง แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า เพราะจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

- การเทียบสี Pantone กับ CMYK:
ในบางกรณี หากต้องการประหยัดงบประมาณ ทางโรงพิมพ์สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ CMYK ที่ใกล้เคียงกับสี Pantone ได้ แต่ลูกค้าต้องเข้าใจว่าสีที่ได้อาจไม่เหมือน 100%

บริการจากโรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง
ทางโรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง มี ไกด์สี Pantone ของแท้นำเข้าจากอเมริกา ทั้งหมด 2 ระบบ (PANTONE CMYK และ PANTONE Color Bridge) ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาเช็คและเทียบสีได้ที่โรงพิมพ์
  • ไกด์สี Pantone ช่วยให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างระหว่างสีในระบบ CMYK และสี Pantone ได้ชัดเจน
  • ลูกค้าสามารถระบุสีที่ต้องการ และปรึกษาเพิ่มเติมกับทีมงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้อแนะนำสำหรับลูกค้า
  • หากต้องการสีพิเศษ เช่น สีทอง สีเงิน หรือสีสะท้อนแสง ควรแจ้งให้โรงพิมพ์ทราบตั้งแต่ต้น เพื่อเลือกวิธีพิมพ์ที่เหมาะสม
  • สำหรับงานที่ต้องการสีเฉพาะ เช่น โลโก้ ควรใช้ Pantone เพื่อความแม่นยำสูงสุด
  • หากมีความกังวลเรื่องสี สามารถนัดหมายเพื่อเข้ามาเทียบสีที่โรงพิมพ์ได้ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า

  
7. การเทียบสีจาก Printer และตัวอย่างงานพิมพ์เก่า

หนึ่งในความเข้าใจผิดที่มักเกิดขึ้นคือการเทียบสีจาก Printer ที่ใช้งานในออฟฟิศ หรือ ตัวอย่างงานพิมพ์เก่า เพื่อเป็นมาตรฐานในการพิมพ์งานใหม่ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ทั้งสองวิธีนี้มีข้อจำกัดหลายประการที่ทำให้ไม่สามารถใช้เป็นมาตรฐานที่แม่นยำได้ มาดูกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และมีปัจจัยใดที่ส่งผลต่อความแตกต่างของสีบ้าง

1.) การเทียบสีจาก Printer ออฟฟิศ
แม้ Printer ออฟฟิศส่วนใหญ่จะใช้ระบบสี CMYK เหมือนกับการพิมพ์ออฟเซ็ต แต่ด้วยคุณสมบัติของ หมึก และ กระบวนการพิมพ์ ที่แตกต่างกัน ทำให้สีที่ได้ไม่สามารถเทียบเคียงกันได้

หมึก Printer ออฟฟิศ:
หมึกที่ใช้ใน Printer มักเป็นหมึกแบบน้ำผสมสี (Water-based Ink) โดยกระบวนการพิมพ์คือการพ่นหมึกเป็นละอองเล็ก ๆ ลงบนกระดาษโดยตรง (Droplet) หมึกชนิดนี้มีความโปร่งใสและมีคุณสมบัติดูดซึมเข้าเนื้อกระดาษมากกว่า จึงทำให้สีดูสดและสว่าง แต่ก็มีข้อเสียคือสีอาจซีดหรือจางลงเมื่อเวลาผ่านไป

หมึกระบบออฟเซ็ต:
หมึกพิมพ์ในระบบออฟเซ็ตผสมจากเม็ดสี (Pigment) กับสารละลายแบบน้ำมัน (Petroleum-based Solvent) หมึกชนิดนี้จะมีความเข้มข้นและความคงทนสูงกว่า แต่กระบวนการพิมพ์ลงบนกระดาษจะทำให้สีดูดซึมลงไปเพียงบางส่วน ส่งผลให้สีดูทึบกว่าและมีความแตกต่างจาก Printer

สรุป:
หมึกที่แตกต่างกัน รวมถึงยี่ห้อและคุณภาพของ Printer แต่ละเครื่อง ทำให้ไม่สามารถใช้ Printer ออฟฟิศเป็นมาตรฐานในการเทียบสีได้

2.) การเทียบสีจากตัวอย่างงานพิมพ์เก่า
ตัวอย่างงานพิมพ์เก่าอาจเป็นสิ่งที่ลูกค้าใช้อ้างอิงสีสำหรับงานพิมพ์ใหม่ แต่มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้สีในตัวอย่างงานพิมพ์เก่าอาจไม่เหมือนเดิม:

- การเปลี่ยนแปลงของสีตามกาลเวลา:
หมึกที่พิมพ์ลงบนกระดาษอาจเกิดการซีดจางหรือเปลี่ยนสีได้เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อถูกแสงแดด ความชื้น หรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง

- ความแตกต่างของกระดาษและหมึกในแต่ละล็อตการผลิต:
กระดาษและหมึกที่ใช้ในงานพิมพ์แต่ละครั้ง อาจมาจากล็อตการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้โทนสีและพื้นผิวของกระดาษไม่เหมือนเดิม

- การปรับแต่งเครื่องจักรตามอายุการใช้งาน:
เครื่องพิมพ์มีการเสื่อมสภาพหรือปรับแต่งตามอายุการใช้งาน ซึ่งอาจส่งผลต่อความแม่นยำของสีที่พิมพ์ได้

- ปัจจัยด้านการเคลือบและการเก็บรักษา:
ตัวอย่างงานที่เคยผ่านกระบวนการเคลือบ เช่น การเคลือบเงา (Glossy) หรือเคลือบด้าน (Matte) จะมีผลต่อความรู้สึกของสีที่เห็น หากเก็บรักษาไม่ดี เช่น มีฝุ่นเกาะ หรือเกิดรอยขีดข่วน สีที่เห็นในตัวอย่างอาจผิดเพี้ยนไป

ตัวอย่างเพิ่มเติม:
หากลูกค้าต้องการพิมพ์งานซ้ำ เช่น คู่มือหรือบรรจุภัณฑ์จากตัวอย่างงานเก่า ทางโรงพิมพ์จำเป็นต้องปรับการพิมพ์ให้ใกล้เคียงกับตัวอย่างมากที่สุด แต่สีที่ได้อาจมีความแตกต่างจากต้นฉบับ เนื่องจากปัจจัยข้างต้น

ข้อแนะนำสำหรับลูกค้า
  • หลีกเลี่ยงการใช้ Printer ออฟฟิศเป็นมาตรฐาน:
    ควรใช้ตัวอย่างงานพิมพ์จริงที่มีการตรวจสอบจากโรงพิมพ์เท่านั้น
  • แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมหากต้องการพิมพ์ซ้ำ:
    หากต้องการให้งานพิมพ์ใหม่เหมือนตัวอย่างงานเก่ามากที่สุด ควรแจ้งทางโรงพิมพ์ถึงรายละเอียด เช่น สี Pantone หรือกระดาษที่เคยใช้
  • ตรวจสอบงานผ่านปรู๊ฟดิจิตอล:
    การออกปรู๊ฟดิจิตอลเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ลูกค้ามองเห็นตัวอย่างงานก่อนการพิมพ์จริง แม้จะมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย แต่สามารถปรับแก้ไขได้ง่าย

สรุป
ทั้งการเทียบสีจาก Printer ออฟฟิศและตัวอย่างงานพิมพ์เก่ามีข้อจำกัดที่อาจทำให้สีในงานพิมพ์ใหม่ไม่เหมือนเดิม 100% เพื่อให้งานออกมาตรงใจที่สุด ลูกค้าควรปรึกษากับโรงพิมพ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความต้องการอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลงานที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรึกษาเรื่องงานพิมพ์กับทีมงาน บีพีเคพริ้นติ้ง ได้ทุกช่องทาง เรายินดีให้บริการ!
 
8. ประเภทของหน้าจอมอนิเตอร์ (Panel Type) และผลต่อการใช้งานกราฟิก
หลายคนอาจไม่ทราบว่า หน้าจอมอนิเตอร์ (Monitor) ที่ใช้งานอยู่ทุกวันนี้มี Panel Type หรือประเภทของหน้าจออยู่ 3 แบบหลัก ๆ ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติและความเหมาะสมต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน หากไม่ได้เลือกซื้อหน้าจอด้วยตนเอง อาจไม่ทราบเลยว่ากำลังใช้งานหน้าจอประเภทใด มาดูกันว่าทั้ง 3 ประเภทมีคุณสมบัติเด่นอะไรบ้าง:

1.) TN (Twisted Nematic)
ข้อดี:
- ราคาถูกที่สุดในบรรดาหน้าจอทุกประเภท
- Response Time ต่ำมาก (ประมาณ 1ms) ทำให้แสดงผลการเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
- Refresh Rate สูง เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการภาพลื่นไหล
ข้อเสีย:
- แสดงสีได้น้อยที่สุด ความแม่นยำของสีต่ำ
- มุมมองภาพแคบมาก หากมองจากด้านข้าง สีจะเพี้ยนทันที
เหมาะสำหรับ:
- การใช้งานทั่วไปและเล่นเกม แต่ไม่เหมาะกับงานกราฟิกที่ต้องการความแม่นยำของสี

2.) IPS (In-Plane Switching)
ข้อดี:
- แสดงสีได้แม่นยำและมีช่วงสี (Color Gamut) กว้างที่สุด
- มุมมองภาพกว้างถึง 178 องศา มองจากด้านข้างก็ไม่ทำให้สีเพี้ยน
- ความลึกของสี (Color Depth) ดีเยี่ยม
ข้อเสีย:
- ราคาสูงกว่าประเภทอื่น
- Response Time ช้ากว่า TN แต่ยังเร็วพอสำหรับงานกราฟิก
เหมาะสำหรับ:
- งานกราฟิกดีไซน์ ตกแต่งภาพ และงานพิมพ์ ที่ต้องการความแม่นยำของสีสูงสุด

3.) VA (Vertical Alignment)
  • ข้อดี:
    • ค่า Contrast Ratio สูงที่สุด เหมาะกับงานที่ต้องการการไล่ระดับความมืด-สว่าง
    • แสดงสีได้ดีระดับปานกลาง ดีกว่า TN แต่ยังด้อยกว่า IPS
    • ราคากลาง ๆ ระหว่าง TN และ IPS
  • ข้อเสีย:
    • Response Time ช้ากว่า TN และ IPS
    • มุมมองภาพกว้างพอสมควร แต่สีอาจเพี้ยนเมื่อมองจากมุมที่เอียงมาก
  • เหมาะสำหรับ:
    การดูหนัง และการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความแม่นยำของสีสูง

9. ผลของ Panel Type ต่อการใช้งานกราฟิก
ประเภทของหน้าจอมีผลโดยตรงต่อการแสดงผลสี โดยเฉพาะงานที่ต้องการความแม่นยำ เช่น งานพิมพ์และกราฟิกดีไซน์ แนะนำให้เลือก หน้าจอ IPS เพราะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุด ทั้งในด้านความแม่นยำของสีและมุมมองภาพ

1.) ยี่ห้อของจอแสดงผลที่มีความใกล้เคียงกับสีจริงในงานพิมพ์
นอกจากประเภทของหน้าจอแล้ว ยี่ห้อและรุ่นของจอมีผลต่อความเที่ยงตรงของสี เช่น:

- Dell: รุ่นระดับสูงมักมาพร้อมกับการ Calibrate สีจากโรงงาน
- Apple (iMac): ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ใช้จอ IPS พร้อม Calibrate สีมาให้เรียบร้อย เหมาะสำหรับงานกราฟิกโดยเฉพาะ
- จอทั่วไป: อาจไม่ได้รับการ Calibrate สีอย่างละเอียด สีที่แสดงผลอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง

2.) ข้อจำกัดของหน้าจอมือถือ
- หน้าจอมือถือ เช่น iPhone และ iPad ไม่รองรับ Profile สี CMYK ทำให้การแสดงสีของไฟล์งานพิมพ์ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
- การออกแบบไฟล์งานสำหรับงานพิมพ์ ควรเริ่มต้นและตรวจสอบบน PC หรือ Mac เพื่อความถูกต้องของสี

3.) สรุปคำแนะนำ
- เลือกหน้าจอให้เหมาะสม: หากทำงานกราฟิกหรืองานพิมพ์ ควรเลือกจอ IPS
- ตรวจสอบการ Calibrate สี: ใช้จอที่ได้รับการ Calibrate สีจากโรงงานหรือทำการปรับแต่งสีเพิ่มเติม
- ระมัดระวังการใช้งานมือถือ: อย่าใช้หน้าจอมือถือเพื่อตรวจสอบสีในไฟล์งานพิมพ์
สำหรับลูกค้าที่ต้องการความแม่นยำเรื่องสีในการพิมพ์งาน ปรึกษา โรงพิมพ์ บีพีเคพริ้นติ้ง ได้ เรายินดีให้คำแนะนำและตรวจสอบคุณภาพสีร่วมกับคุณ!

ความรู้ทางงานพิมพ์

สีงานพิมพ์ไม่ตรง, ปัญหาสีเพี้ยน, สีเพี้ยนในการพิมพ์, ทำไมสีไม่ตรง, สีไม่ตรงต้นฉบับ, การแก้ไขสีเพี้ยน, สี CMYK, สี RGB, ระบบสีในการพิมพ์, การปรับสีงานพิมพ์, วิธีแก้สีเพี้ยน, ปรับสีงานพิมพ์, ทำให้สีตรงกับต้นฉบับ, ปัญหาสีงานพิมพ์, การตั้งค่าสี, การพิมพ์สีตรง, สีงานพิมพ์ไม่เหมือนจอ, ปัญหาสีไม่ตรง, การแปลงสี RGB เป็น CMYK, การเตรียมไฟล์พิมพ์, การตั้งค่าโปรไฟล์สี, การเลือกกระดาษพิมพ์, การปรับสีใน Photoshop, การจัดการสีในการพิมพ์, การปรู๊ฟสี, ปัญหาสีจอและสีพิมพ์, การแก้ไขสีในการพิมพ์, การตั้งค่าสีใน Illustrator, การพิมพ์สีถูกต้อง, การตั้งค่าการพิมพ์